บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2563 ซึ่งประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 ได้มีมติอนุมัตในหลักการให้ บริษัทฯ ลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จํากัด (เมกะวัตต์) เพิ่มเติมอีก จํานวน 3,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 300,000,000 บาท ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขว่าบริษัทฯ ต้องได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวนี้จากเมกะวัตต์ และได้รับความเห็นชอบจากผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ของเมกะวัตต์ ตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น ณ ปัจจุบัน บริษัท ฯ ได้ลงทุนในเมกะวัตต์ รวมจํานวน 11,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงิน ลงทุน 1,150 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46 ของทุนจดทะเบียนเป้าหมายของเมกะวัตต์ตามที่ได้จดทะเบียนมติพิเศษเพิ่มทุน จํานวน 2,500 ล้านบาท และนับจนถึงปัจจุบัน บริษัท ฯ ได้ชําระเงินลงทุนไปแล้ว 850 ล้านบาท
“บริษัทฯจะเข้าซื้อหุ้นสามัญของเมกะวัตต์ จํานวน 3,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12 ของทุนจดทะเบียนโดยบริษัท คาดว่าจะทํารายการแล้วเสร็จภายในไม่เกินไตรมาส 4 ของปี 2565″ดร.ปัญญากล่าว
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการทํารายการเป็นการขยายการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตในอนาคต เนื่องจากธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงาน แสงอาทิตย์จะมีการซื้อขายในรูปแบบของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ระยะยาวประมาณ 25-30 ปี จึงเป็นการการันตีรายได้ในช่วง ระยะเวลาดังกล่าว
ในปัจจุบัน บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จํากัด มีการลงทุนในโครงการต่างๆ อาทิเช่น โครงการ โซล่าร์ฟาร์มของ บริษัท สยามโซล่าร์ เจนเนอเรชั่น จํากัด (SSG) ซึ่งดําเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ อําเภอบําเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ รวม 27 เมกะวัตต์
โครงการโซลาร์ฟาร์มของบริษัท จี เอ พาวเวอร์ ไพรเวท ลิมิเตด ซึ่งดําเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เวียดนาม รวม 29 เมกะวัตต์
เมกะวัตต์มีการลงทุนในบริษัท convalt Mandalay solar PTE Ltd ที่เป็นเจ้าของ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โซล่าร์ฟาร์ม ขนาดกําลังการผลิต 360 MWp ตั้งอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี นับจากวันที่จําหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ นอกจากนั้น
เมกะวัตต์ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อาทิเช่น โครงการบริหารจัดการขยะ เพื่อเปลี่ยนขยะเป็น ผลิตภัณฑ์อื่น และ เชื้อเพลิงสําหรับโรงไฟฟ้า การขุดคริปโตเคอเรนซี จากการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน และ โครงการโซล่าร์รูฟท็อปในประเทศ
แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการทํารายการ บริษัทจะใช้เงินจํานวน 300,000,000 บาท จากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและจากเงินเพิ่มทุนที่บริษัทได้รับชําระ จากการจําหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Right Offering) จํานวนไม่เกิน 1,409,638,775 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.68 บาท โดยเสนอ ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นแต่ละราย ในอัตราส่วน 1.5 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่ราคาเสนอ ขายหุ้นละ 0.68 บาท (หกสิบแปดสตางค์) จากมติ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 พิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าทํารายการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการ ขยายธุรกิจมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้และผลกําไรให้บริษัทฯ อย่างมั่นคง อันนําไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ โดยบริษัทฯ จะสามารถกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจหลักซึ่งเป็นธุรกิจขนส่ง (Transport) และโลจิสติกส์ (Logistics) ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าการทํารายการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และ ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในการนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติเห็นชอบในการเข้าทํารายดังกล่าว ภายใต้การอนุมัติจัดสรรหุ้น ของทางเมกะวัตต์ตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง